วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ซิมโทรศัพท์มีผลต่อวงจรเครื่องมือสื่อสารแบบไหนบ้าง






 ข่าวนี้ผมเป็นคน “บินเดี่ยว” ทั้งทำข่าวและถ่ายภาพ เหตุเกิดที่ลัมมชัย คลองด่าน สมุทรปราการภาพและข่าวการตัดศีรษะเสือผาดเสียบประจานเป็นที่กล่าวขวัญกันอย่างกว้างขวาง เพราะหนังสือพิมพ์เช้าสองฉบับ “พิมพ์ใทย” กับ“เดลิเมล์” เสนอข่าวอย่างละเอียด ภาพของ “คุณพระ” เด่นชัด แม้แต่ผมบนศีรษะก็มีเลือดเปีอนเปรอะ แม้ว่าผาดจะเป็นไอ้เสือปล้นฆ่าจนต้องตามล่าเอาชีวิต แต่ก็แค,นั้น ตายแล้วก็จบกันไม่จำเป็นต้องทำกันถึงขั้นตัดศีรษะเสียบประจาน นี่คือเสียงของชาวบ้านมีนักข่าวไปถามพลโทมังกร พรหมโยธี รัฐมนตรีช่วยมหาดไทยขณะนั้น ก็ได้คำตอบว่าไม่รู้เรื่อง ต่อมา พ.ต.อ.ประชา บูรณธนิต ผู้บังคับการเขต ๗ ได้บอกว่า เป็นการกระทำของซาวบ้าน แต่ในวันที่ ๒๗ เดือนเดียวกันนั้น พ.ต.ต.พุฒ บูรณสมภพ หรือ “พี่อางค์” ของคุณสมบูรณ์ก็เขียนเป็นบันทึกถึงบรรณาธิการ มีใจความว่า การที่เสือผาดถกชาวบ้านไไรีาประชาทัณฑ์ถึงขันตัดศีรษะนัน ก็เพราะเสือผาดทังปล้น-ฆ่าเจ้าทรัพย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจเองที่ติดตามคับตลอดเวลาที่ผ่านมาก็เสียชีวิตไปหลายนาย ฟังดูเหมือนเป็นการแก้เกี้ยวมากกว่าเพราะเมื่อผู้ใหญ่ตั้งประเด็นเป็นว่า เสือผาดถูกประชาทัณฑ์นั้าหนักก็เบาลง เครื่องดักฟังจิ๋ว นอกจากจะมีคำถามกันว่า มีชาวบ้านคนไหนที่หาญกล้าตัดศีรษะเสือผาด ความกลัวของชาวบ้านที่มีต่อเสือผาดนั้นว่ากันว่าแม้แต่ตายไปแล้วก็ยังไม่กล้าจะจ้องตานั่นคือข่าวใหญ่ที่สุด เกรียวกราวที่สุดของเดือนกุมภาพันธ์ ๒๔๙(ร:แต่ขึ้นชื่อว่าข่าว คำว่าใหญ่สุด แล้วก็ยังมีใหญ่สุดกว่าก่อนที่จะถึงข่าวใหญ่สุดกว่า ขออนุญาตย้อนกลับไปถึงงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าที่ค่อนข้างครึกครื้น คุณสมบูรณ์เป็นคนออกมาแถลงว่ามีข่าว  น่ายินดีว่า เวลานี้ทางการตลาดของเราบอกมาว่า ยอดที่วางขายตามแผงใหญ่ทั้งหลายนั้นเท่าเทียมกับ “พิมพ์ไทย” แล้ว ไม่ว่าใครก็ดีใจทั้งนั้น ยังมีคำว่า “ดีใจกว่า” ตามมาอีกด้วยเหมือนกัน เมื่อคุณสมกูรณ์เรียกผมเข้าไปแล้วประกาศว่า ตลอดเวลาหกเดือนเศษที่ผ่านมาคุณถาวร สุวรรณได้ทำหน้าที่ “คนข่าวที่ขยันที่สุด”  ดักฟังเสียงโทรศัพท์  ท่านผู้อำนวยการคือคุณแสง เหตระกูลได้มอบปากกาเซฟเฟอร์ปลอกเงิน ๑ ด้าม เป็นที่ระลึกอย่างนี้จะไม่ให้เรียกว่า “ดีใจกว่า” ได้ยังไง จริงไหมครับ
ต่อมาอีกไม่กี่วัน ข่าวการฆ่าตัวตายด้วยการกินยานอนหลับ ๑๖๐เม็ด ก็เป็นข่าวหน้าหนึ่ง แม้จะไม่ถึงพาดหัวใหญ่ก็ตาม คุณอำนวยทำข่าวนี้ ผู้พยายามฆ่าตัวเองเป็นนักดนตรีชาย เขียนจดหมายลาตายไว้ว่า“ผมถูกโรคร้ายทรมานมาสิบปี ผมกินยาครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว วัณโรคในไตทรมานผมมาก” แล้วเขาก็จบจดหมายด้วยประโยคสำคัญ

“ความจนนี่แหละครับ ที่ทำให้ผมต้องตัดสินใจในวิธีขึ้ขลาดอย่างนี้ ซึ่งเห็นว่าง่ายและไม่สำบากกับคนอื่น” เมือแพทย์ล้างท้องแล้วเขาก็รำพันว่า “เวรเท่านั้นที่ยังไม่ยอมให้ผมหนีมันไป...”อีกหลายวันต่อมา หลังจากข่าวนี้ปรากฏในหน้า “เดลิเมล์” แล้วมืผู้เห็นใจบริจาคเงิน ๑๐ บาทผ่าน “เดลิเมล์” ไปยังนักดนตรีผู้นั้น ผู้เห็นใจรายนี้เป็นดาราละครเวทีในยุคนั้นคือพรรณี สำเร็จประสงค์ และนักดนตรีผู้รำพันว่า เวรยังไม่ยอมหนีไปนั้นก็คือพยงค์ มุกดา ซึ่งต่อมาได้หายป่วยและแข็งแรง น่าจะเป็นด้วย “หมดเวร” แล้วก็ตาม ชื่อเสียงจึงโด่งตังมาจนได้รับการยกย่องให้เป็น “ศิลปินแห่งซาติ”เรื่องร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน  เครื่องดักฟังดิจิตอล ก็เป็นเวลา ๕๕ ปีแล้วชีวิตของคนเรานั้นมืความไม่แน่นอนเป็นที่ตั้ง ชีวิตของคุณพยงค์  พยงค์มุกดา เมื่อรุ่นหนุ่มกินยาฆ่าตัวตายหนีโรคร้าย...แต่ไม่ตายมุกดาเป็นตัวอย่างดีที่สุด เพียรฆ่าตัวเองถึงสามครั้งก็ไม่ตาย แถมโรคร้ายที่รุมเร้าก็ค่อยๆ ห่างหายไปจนกระทั่งแม้เงิน ๑๐ บาทในครั้งนั้นถือว่ามีค่าอย่างยิ่ง ด้วยค่าของเงินนั้นแตกต่างกว่าปัจจุบันเป็นหลายเท่าทวีเดือนพฤศจิกายน ๒๕๙๓ น่าจะเรียกว่าเป็นเดือนของข่าวใหญ่ทีเดียว เฉพาะอย่างยิ่งข่าวอาชญากรรม ยูโดดไปทำข่าวนี้คือคุณพูนดืลป็หัวหน้าข่าว ผมอยากให้เห็นว่าเมื่อกว่าห้าสิบปีที่ผ่านมานั้น เขียนลีดหรือโปรยและย่อหน้าเมื่อเริ่มเนื้อข่าวนั้นเขียนในลักษณะใดมือระดับหัวหน้าข่าวเขียนโปรยดังนี้...เมาเซอร์ดู่มือของจอมขุนโจรผาด “คุณพระ” ทับสายทอง คำรนสนั่นขึ้นปลิดชีพมนุษย์อีกครั้งในการปล้นโรงสีรายยิ่งใหญ่กลางวันแสกๆท่ามกลางวงล้อมของราษฎรมีอาวุธพร้อมนับเรือนร้อย แต่ด้วยแผนการชาญฉลาดและนํ้าใจฮึกเหิม จอมนักปล้นก็สามารถกวาดเงินหลายหมื่นและทองคำหนักร่วมร้อยบาทไปได้ ช้ำยังทิ้งคำฃู่ไว้ให้บรรดาเศรษฐีชาว๙๘ ฝ่าทะเลนํ้าหมึกตำบลบางเลน นครปฐม หวาดสะดุ้งหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามๆ กันย่อหน้าต่อมา “คุณพระ” มาเยี่ยมขอเงินใช้สักแสนเถอะ ประกาศิตสันๆ ของเสือผาด

 ทับสายทอง หลุดออกจากปากเมื่อก้าวเข้าใปประจันหน้านายดำ ตูพานิซ เจ้าของโรงสี “ตูสายพยุงมูล” ต.หินมูล อ.บางเลนขึ้นย่อหน้าใหม่เป็นรายงานข่าวที่อ่านแล้วมองเห็นภาพเหตุการณ์อันระทึก ข่าวนี้เป็นข่าวพาดหัวประจำวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน แน่นอน,ยังความสะเทือนแก่วงการสีกากีอย่างมากเสือผาดมีความกระเดื่องเดชไม่น้อย ต้องขอย้อนความอีกหน่อยกล่าวคือ  เครื่องดักฟังออนไลน์ เดลิเมล์ ฉบับประจำวันที่ ๑๕ กรกฎาคม “สัตตบุษป็” นามปากกาของคุณวิจิตร คุณาวุฒิ เขียนสารคดีเกี่ยวกับเสือผาดไว้ ชื่อเรื่อง“เมื่อข้าพเจ้าเผชิญหน้าเสือผาดที่หมู่บ้านหนองขาหยั่ง” ไม่ใช่ตัวผู้เขียนหรอก หากแต่ผู้เขียนเขียนจากบันทึกของผู้ใช้นามว่า “รัตน์ชาญกุล”เป็นผู้บุกบั่นไปพบเสือผาดแล้วรายงานส่งมายังเดลิเมล์ส่วนคำว่า “คุณพระ” ที่อยู่ในข่าวนั้นคือชื่อที่เสือผาดใช้เรียกตัวเองจนเป็นที่รู้กันไปทั่วเฉพาะอย่างยิ่งย่านอำ๓อบางเลน นครปฐมความกระฉ่อนและอุกอาจของเสือผาดทำให้'วงการสีกากีฐกจับตามอง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าตำรวจจะดำเนินการอย่างไร จนกระทั่งการล้อมจับเสือผาดปะทุขึ้น คนที่ไปตามข่าวคือเฉลิม คล้ายนาค ผู้ถือว่าเป็นมือหนึ่งทีเดียวตำรวจราชบุรีรู้ระแคะระคายถึงแผนการปล้นหมู่บ้าน คุ้งปากล้ดคุ้งพะยอม เสือผาดนำพวกมาห้าคนในจำนวนนี้มีเสือสังวาลย์รวมอยู่ด้วยพอเข้าปล้นก็รู้ทันที เมื่อมีกระสุนปีนปะทุขึ้นว่า กำลังจะติดกับตำรวจเสือผาดบุกขึ้นเรือนหลังหนึ่งเมื่อแสงพระจันทร์คล้อยลงตํ่าแล้วเพราะเป็นคืนขึ้น เสียงปีนระรัวหนักขึ้น อ้ายเสือ

ครื่องดักฟังและติดตาม 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น